13

Fuzik Connex ดนตรีออนไลน์ เพื่อชุมชนคนดนตรี

Fuzik Connex ดนตรีออนไลน์ เพื่อชุมชนคนดนตรี

• Fuzik แพลตฟอร์มเชื่อมนักดนตรีทั่วโลก ชู One Stop Service บริการตั้งแต่ ก้าวแรก ‘สมัครเล่น’ ถึงขึ้น ‘ศิลปิน’
• โดดเด่นที่ใช้งานง่าย ให้พื้นที่เผยแพร่ผลงาน-ให้ออนไลน์ตัดต่อเพลงร่วมกับศิลปินดัง เสมือนเล่นดนตรีอยู่ด้วยกัน 
• เชื่อม ‘โลกดนตรี’ ไร้พรมแดน 

มิติใหม่วงการเพลง โลกไม่จำกัดแล้วว่า การร้องเพลงจะต้องอยู่ใน Studio Record โดยไม่ว่าจะ ร้องเดี่ยว ร้องคู่ ร้องร่วมกับเพื่อน กับนักร้อง หรือกับศิลปินดัง อยู่ที่ไหนก็มีกิจกรรมร่วมกันได้ เพียงแค่คลิกเข้าแพลตฟอร์มชุมชนดนตรีออนไลน์ ที่ชื่อ Fusik (ฟิวซิก)
Fusik (ฟิวซิก) ภายใต้ บริษัท ฟิวซิก คอนเนกซ์ จำกัด (Fusic Connex) เป็น ‘แพลตฟอร์มเล่นดนตรีออนไลน์’ ที่ตอบสนอง-เชื่อมต่อ ‘การร้องเพลง และหรือการสร้างผลงาน’ ได้อย่างไม่จำกัด ทั้งกับตัวบุคคล สถานที่ และเวลา เปิดโอกาสผู้มีใจรักในเสียงเพลง มารวมตัวกันที่ Fusik นับเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่สตาร์ทอัพ 3 คนซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งก็ทำได้ จากการมีใจรักดนตรีที่เหมือนกัน ส่วนความต่างก็เป็นเรื่องความสามารถ Startup Thailand จะพาไปรู้จักทั้ง 3 ผู้ก่อตั้ง ใครทำอะไรตรงไหน?

ภวินท์ นันทจันทูล Chief Executive Officer : CEO มีประสบการณ์การทำงานด้านการพัฒนาธุรกิจและการขาย ให้กับบริษัทชั้นนำในประเทศไทย ความเชี่ยวชาญในด้านนี้ช่วยให้ Fuzik มีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่ชัดเจนและเติบโตอย่างมั่นคง

บุษราคัม คลอวุฒิวัฒน์ Chief Marketing Officer : CMO เป็นนักการตลาดที่มีประสบการณ์การทำงานให้กับสตาร์ทอัพหลายแห่ง ความสามารถในการวางกลยุทธ์การตลาดและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ Fuzik เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

ธีรชาติ ชยาภรณ์ Chief Technology Officer : CTO เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรมและระบบคอมพิวเตอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ท่านมีความสามารถในการพัฒนาระบบ ERP ให้กับธนาคารชั้นนำในประเทศไทย ความเชี่ยวชาญด้านนี้ช่วยให้แพลตฟอร์มของ Fuzik มีความเสถียรและใช้งานง่าย

กล่าวได้ว่า Fusik Connex เป็นผู้ให้บริการด้านดนตรีรูปแบบ one stop service ตั้งแต่การเรียนการสอนไปจนถึงการเป็นศิลปิน Fuzik เชื่อมโยงนักดนตรีและครีเอเตอร์จากทั่วทุกมุมโลกเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีสมัครเล่นหรือมืออาชีพ Fuzik จะเป็นพื้นที่สามารถสร้างสรรค์เพลงร่วมกับคนอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย

โดยใน Fuzik Collaborate ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักดนตรีทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีมือใหม่ที่ต้องการหาเพื่อนเล่นดนตรีหรือครีเอเตอร์ที่ต้องการขยายฐานแฟนคลับและสร้างผลงานร่วมกับคนอื่น ๆ โดยจะสนับสนุนและเสริมสร้างความสามารถของนักดนตรี ให้ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในวงการดนตรี ผ่านแพลตฟอร์มเล่นดนตรีที่ทุกคนสามารถนำคลิปเล่นดนตรีของตัวเองมารวมกับคนอื่นได้เพื่อทำเพลง cover หรือเพลงตัวเองออกมา ต่างกับก่อนหน้านี้ วงการดนตรีมักมีปัญหาด้านการขาดโอกาสในการเชื่อมต่อ และการเล่นดนตรีร่วมกันระหว่างนักดนตรีจากสถานที่ต่างๆ แต่ Fuzik ปิดจบเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ทั้งยังอำนวยความสะดวกด้วยเครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ ครบถ้วน จะ Record อัพโหลดวิดีโอก็ทำได้, Collaborate เล่นดนตรีร่วมกับคนอื่น, Share แชร์ความสนุกให้โลกเห็น รับรู้ผลงานเพลงก็ทำได้ และรวมถึงการสานฝัน เล่นดนตรีกับศิลปินที่ชื่นชอบ แล้ว cover เพลงออกมา ก็สามารถทำได้

เห็นดังนี้แล้ว ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนรักเสียงดนตรี บอกได้เลยว่า Fuzik ตอบโจทย์ และเปิดประตูรอเพื่อให้ก้าวเข้าไป เพื่อให้โอกาสคิดงาน-สร้างสรรค์ผลงานเพลงใหม่ๆ Fuzik ยังฝากถึงบรรดาครีเอเตอร์ที่ต้องการแพลตฟอร์มในการเผยแพร่ผลงาน หรือใครก็ตาม ที่ต้องการค้นหาเพื่อนร่วมงานในวงการดนตรี Fuzik จะเป็นสถานที่ที่ช่วยเติมเต็มความฝันและพัฒนาศักยภาพของนักดนตรีทุกคน ไม่มีข้อจำกัด ชนิดที่ว่า อยู่ที่ไหนก็ทำได้

ที่ผ่านมา Fuzik ได้ร่วมงานกับค่ายเพลง High Cloud นำศิลปินมาโปรโมทแพลตฟอร์ม และทำคลิปวีดีโอเล่นดนตรีร่วมกับศิลปินเพื่อให้ผู้ใช้งานเข้ามาเล่น อนาคตยังเตรียมการร่วมมือกับค่ายเพลงอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อผลักดันวงการดนตรีไทยให้มีศักยภาพเทียบเท่าหรือมากกว่าต่างประเทศต่อไป

นี่แหละ สตาร์ทอัพไทยสาย CreativeTech ที่หนุนคนรักเสียงเพลง รักการร้องเพลง ได้เติบโตด้วยบริการด้านดนตรีรูปแบบ one stop service ตั้งแต่การเรียนการสอนไปจนถึงการเป็นศิลปิน ช่วยเติมเต็มความฝันและพัฒนาศักยภาพของนักดนตรีทุกคน กับการใช้งานสุดง่าย พร้อมการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งเป็นคุณค่าที่ผู้ก่อตั้งทั้งสามตั้งใจนำเสนอให้กับผู้ใช้ทุกคน เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเล่นดนตรีร่วมกับนักดนตรีคนอื่นๆ ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด หวังด้วยว่า Fuzik จะร่วมพัฒนาวงการดนตรี เพื่อก้าวใหม่ของทุกคนได้อย่างยอดเยี่ยม

ถ้าคุณพร้อมเปิดประสบการณ์ในโลกของเสียงเพลง เชื่อมต่อผู้คนที่หลงไหลในเสียงเพลงง่ายๆ ด้วยการโหลด Fuzik Connex

ช่องทางการติดต่อ 

Fuzik Connex: https://fuzik.co/ และ https://www.facebook.com/fuzikcollaboration

บทความนี้อยู่ภายใต้โครงการ Startup Thailand Connext สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

VECABO1

VECABO พลังคนรุ่นใหม่ พัฒนาอุตสาหกรรมรถเช่า ปลอดภัย-ให้สุขระหว่างทาง

VECABO พลังคนรุ่นใหม่ พัฒนาอุตสาหกรรมรถเช่า ปลอดภัย-ให้สุขระหว่างทาง

• สตาร์ทอัพ VECABO พัฒนาบริการเช่ารถบัส-รถตู้ ตรงใจลูกค้า ส่งทุกทริป ทั้งงานและการท่องเที่ยว ‘อุ่นใจ’
• ชู การนำเทคโนโลยี และ AI เป็นตัวช่วยบริหารจัดการ-ลดต้นทุนธุรกิจขนส่ง เพิ่มรายได้
• Transform ธุรกิจขนส่งและรถเช่า เข้าสู่ยุค Green Economy

‘ทริปเดินทาง’ สำคัญสุดคือ ‘ความปลอดภัย’ … ‘VECABO’ (วีคาโบ) สตาร์ทอัพคนไทย ที่เห็นทั้งปัญหาและโอกาส ร่วมตั้งธุรกิจ ‘ศูนย์รวมรถเช่า’ ให้บริการรถเช่าที่มีทั้งรถบัสและรถตู้ พร้อมสร้างมาตรฐานที่ดีส่งทุกจุดหมายให้รอยยิ้มระหว่างทาง …ที่กล่าวมานี้ เป็นความตั้งใจของสตาร์ทอัพ 3 ผู้บริหาร ที่คุยกันก่อนมาร่วมก่อตั้งเป็น Vecabo ว่า ธุรกิจยุคใหม่ ต้องมีจุดต่าง!!! และด้วยจุดของการเป็น ‘ศูนย์รวมรถเช่า’ แน่นอนว่า ต้องมีข้อมูลมหาศาล และการจัดการหลากมิติเข้ามาเกี่ยวข้อง ว่าแล้วก็ไม่รอช้า จับเทคโนโลยีบริหารจัดการมาเข้าช่วย โดยเทคโนโลยีที่ว่านี้ เรียกได้ว่า ครอบคลุมทั้งฝั่ง ‘การให้บริการผู้โดยสาร’ และอีกฝั่ง คือ ‘การจัดการภายใน’… แต่ก่อนอื่น พาทำความรู้จักธุรกิจของ Vecabo กันก่อน
Travel Tech Startup แบรนด์ ‘VECABO’

‘VECABO’ คือระบบกลางที่ให้บริการด้านการเดินทางที่เน้นเรื่องความปลอดภัยด้วยรถบัส โดยมีบริการหลักคือ บริการเช่ารถบัส และ บริการเช่ารถตู้ โดย Vecabo ไม่ได้เป็นเจ้าของรถแต่เพียงผู้เดียว แต่ Vecabo สร้างระบบคัดกรองผู้ให้บริการรถบัสทั่วประเทศขึ้น เพื่อให้ผู้ที่ต้องการใช้งานรถบัสทั่วไป สามารถเรียกใช้บริการรถบัสและรถตู้ต่างๆ เหล่านี้ได้แบบไม่ต้องกังวล และเจ้าของรถ หรือผู้ให้บริการเช่ารถที่จะรับงานในระบบ จะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและเข้ารับการอบรมที่บริษัทก่อนที่จะสามารถให้บริการกับลูกค้าของ Vecabo ได้ การจ้างบริการเช่ารถบัสและรถตู้ผ่านระบบ Vecabo ยังสร้างความสะดวกในด้านของราคาที่เป็นมาตรฐานอีกด้วย

Vecabo เริ่มต้นให้บริการเช่ารถบัสในปี 2017 และทางบริษัทได้ทำการพัฒนาระบบเรื่อยมา ด้วยจุดมุ่งหมายตอบโจทย์แก้ปัญหาที่เคยมีมาในอดีต ตอบโจทย์การเดินทาง และความต้องการของลูกค้า มีความน่าเชื่อถือ ให้บริการด้วยคุณภาพ และลดปัญหาการโก่งราคา โดยทางระบบคัดกรองผู้ให้บริการเช่ารถบัสทุกคน เพื่อควบคุมคุณภาพของผู้ให้บริการในระบบระยะยาว

ขณะที่อีกด้าน ลูกค้าที่ใช้บริการยังสามารถ Review ให้คะแนนกับผู้ให้บริการรถบัสภายหลังการใช้บริการได้ด้วย สิ่งนี้จะเป็นส่วนสำคัญ ที่ถ้าหากผู้ให้บริการรายใดที่ที่มี Rating ต่ำสะสมติดต่อกัน จะถูกระงับการรับงานผ่านทางระบบของ Vecabo ไปในที่สุด สิ่งนี้ก็เป็นการรักษาคุณภาพผู้ให้บริการเช่ารถบัสในระบบ เพื่อลูกค้าพึงพอใจสูงสุดนั่นเอง

VECABO กับการบริหารจัดการแบบ ‘คนรุ่นใหม่’

กล่าวได้ว่า การนำระบบเข้าจัดการอย่างชาญฉลาดนี้ เกิดขึ้นมาพร้อมการก่อตั้ง ของผู้ร่วมก่อตั้ง Vecabo 3 คน ประกอบด้วย จีรยุททธ สุดเจริญ Chief Executive Officer (CEO), ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ Chief Strategy Officer (CSO) และวริทร์ธร วิริยะมนตรี Chief Technology Officer (CTO) โดยทั้งสามมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมรถบัส ที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเดินทางให้กับทุกคน ประกาศนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาประยุคใช้ เพื่อให้บริการส่งถึงทุกจุดหมายปลายทางด้วยความสุข … ดังคำกล่าว ของอีลอน มัสก์

“Remember that happiness is a way of travel – not a destination.”

โปรดจำไว้ว่า ความสุขของการเดินทางเกิดขึ้นระหว่างทางที่ไป ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง -Elon Musk-

นั่นหมายความว่า ทุกๆ การเดินทาง เมื่อใช้บริการอยู่บนรถ จะได้รับการบริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัย และรวมถึงบริการอื่นๆ อย่างสุดประทับใจในทุกจุดหมาย จากความพิถีพิถันคัดสรรการบริการ ตั้งแต่การคัดเลือกยานพาหนะที่ดี มั่นใจได้ว่า ปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ Vecabo ยังใส่ใจในทุกขั้นตอนของการเดินทาง ตั้งแต่การจองรถบัส, ระหว่างการเดินทาง, รวมไปถึงจุดหมายปลายทางเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย และสร้างความประทับใจในราคาสุดคุ้มค่า โดยธุรกิจที่เติบใหญ่ มีรถเช่าให้บริการทั้ง รถบัสและรถตู้มากกว่า 2,000 คัน ทำให้การทำงานต้องจัดการด้วยระบบ

‘VECABO’ ชูเด่นเรื่อง ‘ระบบจัดการ’ มุ่งสู่อุตสาหกรรม Logistics

Vecabo ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา Vecabo มุ่งให้บริการสินค้าและแพลตฟอร์มรวม 2 บริการ ได้แก่

1. ระบบ Vecabo Booking เป็นระบบการจองสำหรับยานพาหนะให้เช่า ที่เน้นการแก้ปัญหาการจองที่ล่าช้า ขาดคุณภาพในการตรวจสอบเรื่องการบริการ พนักงานขับรถ กับยานพาหนะ และหาดีลที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภค โดยปัจจุบันมีผู้ให้บริการรถบัสสมัครเป็น Partner เข้าร่วมแพลตฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมจำนวนฝูงรถให้บริการมากกว่า 2,000 คัน

2. ระบบ Vecabo Management เป็นระบบบริหารจัดการอัตโนมัติสำหรับธุรกิจขนส่งและรถเช่า (AI & Automation transportation management system) โดยเฉพาะเมื่อมีฝูงรถจำนวนมาก จะช่วยในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเทคโนโลยี และ AI นี้จะเข้ามาช่วยลดต้นทุนธุรกิจขนส่ง เพื่อเพิ่มรายได้ และ Transform ธุรกิจขนส่งและรถเช่าเข้าสู่ยุค green economy ช่วยให้การทำธุรกิจส่งผลกระทบเชิงลบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

เห็นระบบต่างๆ ดังนี้แล้ว ก็บอกเลยว่า ระบบช่วยให้ Vecabo บริหารจัดการ ‘งาน’ ง่ายขึ้นมาก แม้จะต้องอัพเดทข้อมูลพาร์ตเนอร์ผู้ให้บริการรถ ‘ยอดเยี่ยม’ และ ‘ยอดแย่’ ต้องปรับปรุงหรือต้องหลุดออกนอกระบบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ Vecabo ขอบคุณลูกค้า ที่เป็นส่วนสำคัญทำให้คงมาตรฐานนี้มาได้โดยตลอด

ทั้งนี้ นอกจากความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญแล้ว มาตรฐานตัวรถ ยิ่งไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดย Vecabo ตอกย้ำ รถบัสและรถตู้ที่นำมาให้บริการนั้น จะมีอายุไม่เกิน 7 ปี ซึ่งข้อนี้ลูกค้าได้เห็นเอง จากการใช้บริการ และทำให้จนถึงปัจจุบันมียอดผู้โดยสารที่ใช้บริการมากขึ้นเรื่อย ๆ นับเบื้องต้นขณะนี้กว่า 1 ล้าน 5 แสนคนแล้ว โดยตัวเลขนี้ 98% ยังย้ำ มีความมั่นใจที่จะเลือกใช้บริการของ Vecabo ต่อไปทั้งวันนี้และอนาคต

ถือเป็น ‘รางวัลใหญ่’ ของ 3 ผู้บริหาร ที่กล่าวย้ำ ไม่มีรางวัลใด มีความสุขได้เท่ารอยยิ้มของผู้โดยสาร สมดังความตั้งใจ ใช้มาตรฐานที่สร้าง “ทำทุกวินาทีให้ผู้โดยสาร มีความสุขระหว่างทางให้มากที่สุด” เพื่อเป็นก้าวแรกในการส่งผู้โดยสาร ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเดินทางครั้งนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ช่องทางการติดต่อ

Vecabo: https://www.vecabo.com/th และ https://www.facebook.com/vecabotrans

บทความนี้อยู่ภายใต้โครงการ Startup Thailand Connext สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

Cover

Talk to PEACH พื้นที่คุยเรื่องเพศ ไม่เห็นหน้า

Talk to PEACH พื้นที่คุยเรื่องเพศ ไม่เห็นหน้า

• Talk to PEACH แอปฯ ปลดทุกข์ ทุกปัญหาเรื่องเพศ เพื่อคนทุกวัยปลดปล่อยและแก้ปัญหา
• ชี้จุดเด่น เป็นการปรึกษาออนไลน์ ไม่เปิดเผยตัวตนคนถาม
• ปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกขณะ ผู้ปรึกษามีทั้ง วัยรุ่น วัยเจริญพันธุ์ และ LGBTQ+

เซ็กซ์ – เรื่องทางเพศ เป็นความคลาสสิคทางใจอย่างหนึ่ง หลายคนมีความสุขกับเซ็กซ์ แต่อีกด้านเซ็กซ์ก็ให้ทุกข์ได้เหมือนกัน!!! อะไรทำให้เป็นเช่นนั้น ?? คำตอบอยู่ที่ข้อเท็จจริง ซึ่งชี้ว่า แม้เซ็กซ์จะเป็นเรื่องเปิดเผยได้แล้วในสังคมไทย แต่เซ็กซ์ของแต่ละคนก็จะยังมีมุมลับๆ ในมิติที่แตกต่าง นั่นจึงเป็นประเด็นปัญหาว่า เมื่อฉันมีปัญหาด้านนี้แล้ว ฉันจะไปปรึกษาใคร? … ถามเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนอาจตอบว่า ‘ได้สิ’ ฉันจะให้คำแนะนำเธอเอง แต่แล้วคำตอบที่ได้ จะตรงใจไหม??? ไม่มีใครยืนยันได้ ว่านั่น คือ แนวทางที่ถูกต้อง เพราะนั่นเป็นประสบการณ์นึกคิด ของผู้ถูกถามเพียงคนหนึ่ง และหากเอาปัญหาเดียวกันนี้ไปถามอีกคน ก็อาจจะได้คำตอบที่ต่างไปอีก ดังนั้น เรื่องเพศ จึงควรจะถามให้ถูกที่ถูกทาง และเป็นจุดก่อกำเนิดก่อเกิด ‘Talk to PEACH’ พื้นที่ให้ปรึกษาปัญหาทางเพศ ให้ทุกคน

ทำความรู้จัก Talk to PEACH

หลายคน คงเคยได้ยินชื่อ Talk to PEACH (ทอล์ค ทู พีซ) กันมาบ้างแล้ว แต่จะขอแนะนำอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ว่า Talk to PEACH เป็นแพลตฟอร์มที่ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางเพศ ครอบคลุมบริการตั้งแต่การปรึกษากับแพทย์และนักเพศวิทยา และบริการการรักษาที่ Peach Clinic มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสุขภาพทางเพศอย่างครอบคลุมและเข้าถึงได้ โดยผู้เข้ารับคำปรึกษาไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนใดๆ เพราะที่นี่พื้นที่ปลอดภัยอย่างแท้จริงสำหรับทุกคนที่อยากคุยเรื่องนี้

เหวิน – ชวิศา เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งฯ Talk to PEACH เผยว่าป็นผู้เข้ามาในวงการนี้แบบไม่ได้เฉพาะเจาะจงที่จะพุ่งเป้ามาตรงๆ หากแต่จะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ ได้ทำแบรนด์ผ้าอนามัยออร์แกนิกมาก่อน ระหว่างนั้นก็ได้รับคำถามมากมาย ที่ล้วนเป็นคำถามเกี่ยวเนื่องทั้งเรื่องการใช้ผ้าอนามัย เรื่องเพศ และสุขภาวะทางเพศ แต่ความรู้สึกส่วนตัวขณะนั้น ยังตอบไม่ดี ไม่มั่นใจ ถามตัวเองว่าเราเป็นใครมาตอบเรื่องนี้ อยากรับผิดชอบในคำตอบ… คิดดังนี้แล้ว เธอตัดสินใจสร้างตัวตนเป็นคนจริงในวงการ ด้วยการลงเรียนเพื่อเป็น ‘นักเพศวิทยาคลินิก’ หรือ sexologist ที่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ซึ่งจุดเริ่มต้น Talk To PEACH เริ่มที่ตรงนี้ หลังได้เจอกับกลุ่มสตาร์ทอัพ และชักชวนกันมาร่วมสร้าง Talk to PEACH ขึ้น จากนั้นเป็นต้นมา Talk to PEACH มีผู้ให้คำปรึกษา 12 คน โดยมีทั้งนักเพศวิทยา (ที่เรียนอยู่ด้วยกัน) กับหมอสูตินรีเวช คอยให้คำปรึกษาทางออนไลน์ ครอบคลุมทุกปัญหาเรื่องเซ็กซ์และสุขภาพเพศทุกเรื่อง

พอทำแล้วก็รู้ว่า มีอะไรในเรื่องเพศนี้มากมาย ผู้มีปัญหาอยากหาคำตอบเป็นคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่ผู้หญิงและผู้ชายอายุ 12-60 ปี, คู่รักหรือคู่สมรส, คนไทยในต่างประเทศ และรวมถึงชุมชน LGBTQ+ เรียกได้ว่า ตอบโจทย์บริการสุขภาพได้ตรงจุด เพราะการคุยเรื่องทางเพศที่ไม่เปิดเผยตัวตนนั้น ลดความอาย และความกังวลในการปรึกษาปัญหาทางเพศได้มาก ซึ่งถ้าหากปัญหานั้น ลุกลามเข้าไปถึงการต้องตรวจวินิจฉัยสุขภาพร่างกาย ก็ยังมีคลินิกรองรับด้วย เรียกได้ว่า จบแทบทุกปัญหา ที่ Talk to PEACH

รื่องเพศ ส่วนใหญ่เขาถามอะไรกัน?

สำหรับปัญหาทางเพศ ที่ Talk to PEACH เคยได้รับคำถามนั้น กว้างมาก หลายคนกังวลเรื่องตั้งครรภ์ ก็จะถามว่า ‘หนูจะท้องไหม?’ ซึ่งตั้งแต่ยังไม่มี Talk To PEACH กูเกิลก็รับบทบาทนี้ไป แต่ว่าพี่กูเกิล ก็ตอบได้ไม่ชัดเป๊ะ เพราะกูเกิล ไม่ได้รู้ปัญหาที่แท้จริงของคนถาม แต่กูเกิลจะถูกป้อนข้อมูลเรื่องนี้ ซึ่งอาจอยู่ในมิติที่ต่างกัน ดังนั้น เมื่อได้รับข้อมูลส่วนนั้นแล้ว ผู้ป้อนคำถาม ยังต้องเอาข้อมูลที่เสิร์ชได้ มาประมวลผลด้วยตัวเอง ตามปัจจัยแวดล้อมส่วนตัว ทั้งข้อมูลรอบเดือน, ฮอร์โมนแต่ละคนที่ไม่ตรงกัน, ปัญหาสรีระ ฯลฯ ที่พอไม่เหมือนกัน ข้อมูลก็จะคลาดเคลื่อนตามไปด้วย

แต่ถ้าได้มาคุยกับ sexologist เขาก็จะซักเลย ว่าประจำเดือนมายังไง ได้กินยาคุมไหม ตอนใส่ถุงยางเป็นยังไง มีการใส่ถุงยางที่ถูกต้องไหม หรือว่ามีพฤติกรรมอื่นๆ อีกไหม ที่สามารถนำมาประกอบควบคู่เพื่อที่จะตอบโจทย์ว่า คำถามที่เค้าถาม ‘หนูจะท้องไหม?’ เป็นเรื่องของเขาโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีคำถามอื่น เช่น การแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย ซึ่งถือได้ว่า เป็นเรื่องของอายุเป็นสำคัญ เด็กมากหรือแก่มาก ก็มักมีปัญหานี้, ปัญหาด้านจิตใจ-ความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ และรวมถึง อารมณ์-ความต้องการทางเพศ ที่มีหลายมิติ เช่น ความไม่เท่ากันระหว่างคู่รัก หรือปัญหาด้านสุขภาพที่มารวมในข้อนี้ก็มีได้เช่นกัน การต้องคุยกัน ต้องเริ่มจากตรงไหน เป็นต้น

หลากปัญหาเหล่านี้ หากจะนับรวมเคสที่มาปรึกษาพูดคุยแล้ว ก็สรุปรวมได้ว่า Talk to PEACH ดำเนินการช่วยคัดกรองและแก้ไขปัญหาทางเพศไปแล้วกว่า 3,000 เคส ทั้งยังมีการเติบโตของผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง มีการขยายบริการไปยังพื้นที่ใหม่ เพิ่มบริการใหม่ๆ เช่น Tiny PEACH การเก็บตัวอย่างและวินิจฉัยโรคที่คลินิกขนาดเล็ก และ PEACH Clinic เพื่อสร้างประสบการณ์การดูแลสุขภาพทางเพศที่ครบวงจร โดยแผนในอนาคต จะมีการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย

Talk to PEACH ถือเป็น Health Tech ที่พกความรู้มาเต็มกระเป๋าตั้งแต่ต้น ได้รับการสนับสนุนจาก TED Fund ในการพัฒนาแพลตฟอร์มและขยายบริการเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพทางเพศของคนไทยอย่างครอบคลุม ถือเป็นสตาร์ทอัพ ที่คิดธุรกิจมาเพื่อตอบโจทย์ช่วยคนสังคมมีทางออก ในเรื่องที่หาพื้นที่ปรึกษาได้ยาก ทั้งยังเตรียมขยายการช่วยเหลือต่อเนื่อง นี่แหละ สตาร์ทอัพคนไทยที่เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก

ช่องทางการติดต่อ 

Talk to PEACH: https://talktopeach.com/ และ https://www.facebook.com/talktopeach

บทความนี้อยู่ภายใต้โครงการ Startup Thailand Connext สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

Findice

FINDICE Education บอร์ดเกมการเงิน พาเกมส์ชีวิต ‘แกร่ง’

FINDICE Education บอร์ดเกมการเงิน พาเกม??ชีวิต ‘แกร่ง’

• สตาร์ทอัพไทย เก่ง คิดบอร์ดเกมเสริมทักษะการเงิน ปลูกฝังเยาวชน ตั้งแต่ 10 ขวบอัพ
• เผยแนวคิด เพราะต้องการร่วมแก้ปัญหา ‘คนไทยไร้เงินออม’
• ตอกย้ำจุดเด่น เป็นเกมการเงินที่เข้าถึงได้ง่าย เล่นได้ทั้งครอบครัว สนุกสนาน คลายเครียด มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต ‘ระยะยาว’

อิทธิพลของ ‘เกม’ สามารถสร้างจินตนาการไกล เกม ไม่ใช่เรื่อง ‘แค่สนุก’ หากพ่อแม่ผู้ปกครอง ‘รู้จักเลือก’ เกม เป็นทักษะพื้นฐาน สามารถพัฒนาความคิดได้อย่างเป็นระบบ

รู้ไหมว่า ‘ทฤษฎีเกม’ เกิดขึ้น ระหว่างปี 1871-1956 โดยกว่าจะเกิดขึ้นมาได้ เป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ … ผู้ริเริ่มก่อกำเนิด เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Émile Borel ซึ่งริเริ่มเปิดตัวทฤษฎีมาในช่วงปี 1871 แต่ยุคนั้นสมัยนั้น ‘ไม่มีใครเชื่อ’ … ต่อมาในปี 1926 John von Neumann (1903-1957) ได้เสนอทฤษฎี minimax ที่ใช้เป็นรากฐานของวิทยาการเรื่องทฤษฎีเกม … ณ จุดนั้น ก็ยัง ‘ไม่มีใครใส่ใจเหลียวแล’ อีก หลายคนยังคงคิดว่า “เกม เป็นเรื่องคณิตศาสตร์บริสุทธิ์ ที่ใช้คิดเล่นสนุกๆ หาประโยชน์ใดๆ มิได้เลย” 

แต่ von Neumann ไม่ยอมแพ้…และได้ทำการเรียบเรียงตำราคลาสสิก ขึ้นในปี 1944 ชื่อว่า “Theory of Games and Economic Behavior” หรือ ทฤษฎีของเกมและพฤติกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเขียนร่วมกับ Oskar Morgenstern (1902–1977) และมหาวิทยาลัย Princeton แล้วนำออกตีพิมพ์เผยแพร่ วงการเศรษฐศาสตร์จึงเริ่มตื่นตัวในปีนี้นี่เอง พร้อมกับตระหนักในความสำคัญของตำรานี้ ถึงกับได้ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ The New York Times จากนั้นทฤษฎีเกมก็ได้รับการพัฒนาต่อ เพราะต้องอาศัยความรู้ด้านพีชคณิต เรขาคณิต ทฤษฎี set และ topology เข้ามาช่วยด้วย เพื่อนำมาใช้ในการแข่งขันเอาชนะกันในด้านธุรกิจ สงคราม การเมือง เศรษฐศาสตร์ รวมถึงชีววิทยาเชิงวิวัฒนาการ และใช้ในการวิเคราะห์สังคมความเป็นอยู่ของสัตว์และแบคทีเรีย ฯลฯ 

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ก็พอสรุปได้ว่า ‘เกม’ มีความสำคัญในหลากมิติ  โดยเฉพาะเมื่อต้องจำลองสังคมใดสังคมหนึ่ง บนโลกใบนี้ (เพื่อการทดลอง หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น) ที่มนุษย์อยากรู้ ซึ่งมันก็คือ เกมๆ หนึ่ง นั่นเอง…นี่แหละ ความยิ่งใหญ่ในซอกมุมเล็กๆ ที่หลายคนอาจรู้แล้ว และอีกหลายคน อาจ ยังไม่เคยรู้มาก่อน!!!

เกม กับการเสริมแกร่งทักษะชีวิต

ว่ามาดังนี้แล้ว ก็อยากกล่าวถึง ‘เกมในประเทศไทย’ โดยสตาร์ทอัพไทย กันบ้าง…ต้องบอกว่า สตาร์ทอัพไทย ก็เก่งไม่แพ้ใคร เพราะล่าสุด สตาร์ทอัพไทย ชื่อ Findice Education สร้างผลงานต่อยอดธุรกิจ บอร์ดเกมเสริมทักษะการเงินให้เยาวชน นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงก็ว่าได้ เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหา การไม่มีเงินออม ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการฝึกทักษะการเงินจากบอร์ดเกมตั้งแต่เยาว์วัย นั่นเอง

บอร์ดเกมนี้ พัฒนาโดย กาญจนา อ๊อดทรัพย์ นักวางแผนการเงิน (CFP) ที่มีประสบการณ์ในสายธนาคารมากว่า 10 ปี พ่วงตำแหน่งสำคัญ คือยังเป็น ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟินไดซ์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดยการต่อยอด ‘ธุรกิจบอร์ดเกม’ เพื่อเสริมทักษะการเงิน (Financial Boardgame) ให้เยาวชนนี้ ก็ด้วยวัตถุประสงค์หลัก เพราะอยากช่วยปลูกฝังความรู้ด้านวางแผนการเงินให้กับเด็กๆ และคนไทย โดยจะย่อยเรื่องการเงินออกมาเป็นเกมต่างๆ เมนหลักคือการให้ความรู้เรื่องหนี้ การตัดสินใจซื้อ เงินสำรองฉุกเฉิน เป็นต้น นี่จึงเป็นการฝึกพัฒนาการทางความคิดตั้งแต่วัยเด็ก เน้นการเรียนรู้ผ่านเกมการเงินที่สุกแล้ว เป็นอีกก้าวที่ช่วยเสริมทักษะคณิตศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์ ได้อย่างสอดคล้อง เมื่อประกอบเข้ากับการเล่นอย่างมีความสุข ผู้เล่น จึงสามารถปรับประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ยาก โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 5 เกม ประกอบด้วย

1. เกมรู้หน้าไม่รู้หนี้ : Calculate Your Net Worth
2. เกมซื้อฉันเถอะ : Shop Me Please
3. เกมมีฉันไว้อุ่นใจนะ : Risky Lossy
4. เกมหุ้นซิ่ง วิ่งทะลุกระดาน : Trader Hunter
5. เกมแลกไปแลกมา : Trade In Trade Out

ทั้งนี้ เมื่อมีผลงานออกตลาด ก็ได้รับความสนใจมากๆ มีเสียงปรบมือรัวๆ จากพ่อแม่ผู้ปกครองมากมาย แทบ 100% บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเกมที่สนุก เล่นได้ทั้งครอบครัว มีข้อแม้นิดเดียวว่า เด็กๆ ที่เล่นจะต้องโตสักนิด เพราะอย่างในครอบครัวหนึ่ง ระบุว่า มีลูก 2 คน แต่ระหว่างที่พี่คนโต เล่นกับคุณพ่อคุณแม่อย่างสนุกสนานนั้น หันไปเจอน้อง ทำคิ้วชนกัน ใบหน้าไม่พอใจสุดเหวี่ยง เนื่องจากอยากสนุกด้วย แต่ก็ฟังเขาไม่รู้เรื่อง…ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะเกมนี้ถูกระบุตั้งแต่ต้น ว่าเหมาะสมกับเด็กอายุ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเข้าใจได้ง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานการเงินมาก่อน ส่วนหนูน้อยรายนั้น อายุยังน้อยเกินกว่าจะเข้าใจ อดใจรอหนูโตกว่านี้อีกสักนิด ได้เข้าใจแน่นอน

ปัจจุบันมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน Findice สำหรับเล่นคู่กับบอร์ดเกม และยังเล่นพร้อมกันเป็นกลุ่ม ในอนาคตมีแผนขยายฐานลูกค้า B2B โดยเจาะกลุ่มไปที่สถาบันการศึกษาเป็นหลัก

ถือได้ว่า เป็นความฉลาดของสตาร์ทอัพ ที่คิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เพราะตอบโจทย์สังคม แก้ปัญหาการไม่มีเงินออมในคนไทย ปลูกฝังนิสัยการวางแผนการเงิน พร้อมพัฒนาต่อยอดได้ถึงการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี

Findice กับเป้าหมาย การเงินคนไทย ‘ลดเหลื่อมล้ำ’

ฟินไดซ์ ได้รับการสนับสนุนภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) มีวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาทางด้านการเงิน โดยการพัฒนาเครื่องมือในการให้ความรู้ทางการเงิน ตั้งแต่เด็กวัยเรียน คือ คอร์สการเงินสำหรับเด็ก, การ์ดเกม และบอร์ดเกมการเงิน ที่มีความสนุก เข้าใจง่าย และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ในชีวิตประจำวัน ฟินไดซ์ มีเป้าหมายสูงสุด คือ ต้องการส่งเสริมให้คนไทยมีความรู้ทางการเงิน สร้างสังคมที่น่าอยู่ ปลอดภัย ลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างยั่งยืน

ปัจจุบันบริการของ Findice Education ไม่ได้มีเฉพาะบอร์ดเกมเสริมทักษะการเงินเท่านั้น แต่ยังมีคอร์สเสริมทักษะการเงินสำหรับเด็กอายุ 10-18 ปี และกิจกรรมเสริมทักษะการเงิน อีกด้วย

นี่แหละ ความเก่งของสตาร์ทอัพไทย ขอปรบมือรัว อีกครั้ง !!!

ทิ้งท้ายไว้ว่า Findice เป็นเกมที่ทุกบ้าน ควรมี !!! เพราะทุกคน (ตั้งแต่เด็ก 10 ขวบขึ้นไป) เข้าถึงง่าย เป็นกิจกรรมสนุก คลายเครียด มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต ‘ระยะยาว’

ช่องทางการติดต่อ 

Findice Education: https://www.findice.biz/

บทความนี้อยู่ภายใต้โครงการ Startup Thailand Connext สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

ภาพสินค้า

รู้ไหม? นวัตกรรม ‘รังไหม’ ช่วยวงการแพทย์ – อุตสาหกรรม ต่อยอด

รู้ไหม? นวัตกรรม ‘รังไหม’ ช่วยวงการแพทย์ – อุตสาหกรรม ต่อยอด

• Engine Life บริษัทสตาร์ทอัพไทย โชว์แรงหนุน NIA โครงการแผ่นแปะโปรตีนไหมไทย ควบคุมการปลดปล่อยสารสกัดจากกัญชงผ่านผิวหนัง
• ล่าสุด ยังจัดทำผลิตภัณฑ์ ‘SilkLife’ วัตถุดิบทางการแพทย์ เพื่อวงการแพทย์-อุตสาหกรรม ต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และสุขภาพ

เทคโนโลยี-นวัตกรรม นำมาซึ่งความก้าวหน้า ‘ผู้ทำ-เจ้าของนวัตกรรม’ ไม่ได้แค่ผลงานทางวิชาการ แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจ หลังผลงานนั้น ‘ใช้ได้จริง’ ลงจากหิ้งไปอยู่ห้างเรียบร้อย และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้คนได้อย่างกว้างขวาง

วันนี้ขอกล่าวถึง นวัตกรรม ‘ไหมไทย’ … ที่นับวัน ยิ่งเห็นการต่อยอด โดยเฉพาะเมื่อสกัดออกมาเป็นโปรตีนชนิดที่เรียกว่า ‘ไฟโบรอิน’ (Fibroin) โดยปี 2566 เราได้เห็นผลิตภัณฑ์ ‘นวัตกรรมแผ่นแปะ Keep On Sleep’ สารสกัดจากกัญชง (CBD) ช่วยให้นอนหลับอย่างมีคุณภาพและหลับลึกตลอดคืน พัฒนาโดย Engine Life บริษัทสตาร์ทอัพของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย ภายใต้การบ่มเพาะของ CU Innovation Hub จากทีมวิจัยนำโดย รศ.ดร.จุฑามาศ รัตนวราภรณ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ

สำหรับ Keep On Sleep เป็นแผ่นแปะชนิด Transdermal Delivery เป็นการนำนวัตกรรม ‘โปรตีนไฟโบรอิน’ มาห่อหุ้มสาร CBD เป็น CBD Nano capsules ทำให้ในผลิตภัณฑ์ Keep On Sleep สามารถผลักสาร CBD เข้าสู่ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปริมาณที่สม่ำเสมอตลอดคืนที่แปะแผ่นชนิดนี้ เนื่องจากสาร CBD มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย การแปะแผ่น Keep On Sleep จึงช่วยให้ผู้ใช้นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น และช่วยให้หลับลึกตลอดคืน

นี่เป็นเพียงแค่ 1 ผลิตภัณฑ์ แต่ รู้หรือไม่? ‘โปรตีนไฟโบรอิน’ ยังต่อยอดผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย!!! จากคุณสมบัติที่มี ทั้ง…

  1. ความเข้ากันได้ทางชีวภาพ (Biocompatibility)  ไฟโบรอินมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสูง ทำให้ไม่ก่อให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน เมื่อถูกนำเข้าไปในร่างกายมนุษย์
  2. ความแข็งแรงและความยืดหยุ่น (Strength and Flexibility) ไฟโบรอินมีความแข็งแรงและความยืดหยุ่นสูง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงทางกายภาพ
  3. การสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Biodegradability)  ไฟโบรอินสามารถสลายตัวได้ในร่างกายมนุษย์ โดยไม่ก่อให้เกิดสารพิษ ทำให้เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการปลูกถ่ายและการใช้งานทางการแพทย์

คุณสมบัติทั้งหมดนี้ ก็เป็นที่มาให้ทางการแพทย์นำไปประยุกต์ใช้ ทั้งในการรักษาบาดแผล, การสร้างเนื้อเยื่อ, การปลูกถ่ายอวัยวะเทียม และระบบการนำส่งยา ซึ่งไฟโบรอินสามารถใช้ในการสร้างระบบนำส่งยาที่ควบคุมการปล่อยยาในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ดังเช่นที่กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Keep On Sleep ช่วยหลับอย่างมีคุณภาพตลอดทั้งคืนนั่นเอง

ข้อดีของ ‘ไฟโบรอิน’

ไฟโบรอิน – ไม่เป็นพิษ ปลอดภัยสำหรับการใช้งานในร่างกายมนุษย์
ไฟโบรอิน – ความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถปรับปรุงและดัดแปลงคุณสมบัติเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน
ไฟโบรอิน – มีประสิทธิภาพในการสมานแผล ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์และการสมานแผลอย่างรวดเร็ว
ไฟโบรอิน – เป็นวัสดุที่มีศักยภาพสูง ในด้านการแพทย์และวิศวกรรมชีวภาพ เนื่องจากคุณสมบัติทางชีวภาพที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการปรับปรุงเพื่อใช้ในงานที่หลากหลาย

จาก ‘ไฟโบรอินไหม’ สู่ผลิตภัณฑ์ Silklife

การเปลี่ยนจากโปรตีนไฟโบรอินสู่ผลิตภัณฑ์ SilkLife เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวการแพทย์ รวมถึงการทดสอบและการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ข้อนี้ รศ. ดร.จุฑามาศ รัตนวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัท เจ้าของงานวิจัยจากการสกัดโปรตีนของไหมไทย เผย นักวิจัยและวิศวกรชีวการแพทย์ ทำการวิจัยและทดลองเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ไฟโบรอินเป็นส่วนประกอบหลัก โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการใช้งานในทางการแพทย์ มีการทดสอบทางคลินิกอย่างเข้มงวด เพื่อยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งานทางการแพทย์อย่างครบถ้วน จนขณะนี้ผลิตภัณฑ์ SilkLife จัดเป็นวัตถุดิบทางการแพทย์ที่สามารถนำไปใช้ผลิตยา หรือวัคซีนได้ โดยเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตชีววัสดุเกรดการแพทย์ ที่ประยุกต์ใช้เป็นระบบนำส่งยาและสารออกฤทธิ์ เพื่อเป็นวิธีการรักษาโรครูปแบบใหม่ เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ยังไม่มีมาก่อน เป็นโอกาสการเติบโตในหลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

Silklife ทำอะไรได้บ้าง?

ว่าแล้วก็พาไปตัวตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ Silklife ได้แก่
วัสดุปิดแผล (Wound Dressings) ใช้ไฟโบรอินในการผลิตวัสดุปิดแผลที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสมานแผลและลดการติดเชื้อ
การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ (Tissue Scaffolds) ใช้ไฟโบรอินในการสร้างโครงร่างที่ช่วยให้เซลล์เนื้อเยื่อสามารถเจริญเติบโตและฟื้นฟูได้
ระบบนำส่งยา (Drug Delivery Systems) ใช้ไฟโบรอินในการผลิตไมโครและนาโนพาร์ติเคิลที่สามารถควบคุมการปล่อยยาในร่างกาย

Silklife โดดเด่นอย่างไร

หากจะบอกกล่าวผู้เกี่ยวข้อง ที่ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล บริษัทยา หรือผู้ผลิตอาหารเสริม และหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็อยากบอกว่า SilkLife มีประโยชน์หลากหลายมาก
SilkLife ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรค ลดความถี่ในการใช้ยา และปริมาณโดสยา ซึ่งจะช่วยลดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ของการใช้ยา ทำให้ผู้ป่วยสะดวก และได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณลักษณะเด่นของผลงานนวัตกรรม
SilkLife จัดเป็นชีววัสดุจากธรรมชาติที่ได้จากกระบวนการที่ผ่านมาตรฐานตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
SilkLife สามารถนำมาปรับสูตร ขึ้นรูปเป็นรูปแบบต่างๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ไฮโดรเจลชนิดฉีดได้ แผ่นแปะนำส่งสารผ่านผิวหนัง อนุภาคไมโคร/นาโน โครงเนื้อเยื่อสามมิติ และสามารถนำไปผสมเพื่อนำส่งยาได้หลากหลายชนิด ทั้งยาที่ละลายน้ำ ยาไม่ละลายน้ำ สารสกัดสมุนไพร โดย SilkLife มี database ของสูตรการผสมกับยา ที่ช่วยให้พัฒนาสูตรร่วมกับยาต่างๆได้ง่ายและตรงความต้องการของลูกค้า
SilkLife นับเป็นเทคโนโลยีที่ปฏิวัติการใช้ไหมไทยในอุตสาหกรรมสิ่งทอ สู่การเป็นชีววัสดุทางการแพทย์ ที่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ

รู้ดังนี้แล้ว ไม่ต้องรอช้า เพราะในท่ามกลางที่ภาคธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ต่างชิงไหวชิงพริบ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือปรับแต่งของเดิมที่มีอยู่ ก็สามารถนำผลิตภัณฑ์ SilkLife ไปเสริมพลังต่อยอดกันได้ โดย SilkLife จัดเป็นตัวอย่างที่ดีของศักยภาพของวัสดุชีวภาพธรรมชาติในการปฏิวัติอุตสาหกรรมการแพทย์ ด้วยการใช้คุณสมบัติพิเศษของโปรตีนไฟโบรอิน นอกจากนี้ SilkLife ยังจัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์โซลูชั่นปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน ทั้งในด้านการรักษาบาดแผล วิศวกรรมเนื้อเยื่อ และระบบนำส่งยา ซึ่งไม่เพียงตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดการแพทย์เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการปฏิบัติที่ยั่งยืนและการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกหลากมิติด้วย

ช่องทางการติดต่อ Enginelife: https://www.enginelife.co.th
บทความนี้อยู่ภายใต้โครงการ Startup Thailand Connext สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)